เที่ยวลักเซมเบิร์ก
ประเทศเล็กๆ แต่เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีมนต์เสน่ห์ของแดนแห่งนี้ ไม่ได้น้อยตามไปด้วย..
ลักเซมเบิร์ก หรือ ราชรัฐลักเซมเบิร์ก เป็นประเทศเล็กๆ ในทวีปยุโรป ที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังมากว่า 1,000 ปี โดยมีพื้นที่เพียงแค่ 2,586 ตารางกิโลเมตร และมีขนาดเล็กเป็นอันดับที่ 167 ของโลก ซึ่งมีเมืองหลวงชื่อเดียวกันกับประเทศ เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เพราะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป มีพรมแดนทางด้านทิศตะวันออกติดกับประเทศเยอรมันนี ทิศใต้ติดกับประเทศฝรั่งเศส และด้านทิศตะวันตกติดกับประเทศเบลเยียม
เที่ยวลักเซมเบิร์ก
ประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) มีประชากรที่ได้ทำการสำรวจเมื่อปี ค.ศ.2005 ประมาณ 469,000 คน โดยส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิค ซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางราชการ แต่ในโรงเรียนจะใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาทางการเรียน การสอน และใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารทั่วไปอย่างกว้างขวาง
อุตสาหกรรมหลักที่เป็นรายได้ของประเทศ คือ การทำเหมืองแร่ โรงงานถลุงเหล็ก และโลหะ ส่วนทางด้านเกษรตกรรม มีการเพาะปลูก และการทำไร่ ทั้ง ไร่องุ่น ไร่ข้าวโพด และเพาะปลูกมันฝรั่ง
ถึงแม้ว่า ประเทศลักเซมเบิร์ก จะเป็นประเทศเล็กๆ ในดินแดนยุโรป แต่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และมนต์เสน่ห์ ที่ดึงดูดในดินแดนแห่งนี้ไม่ได้น้อยตามไปด้วย เพราะเป็นประเทศที่เงียบสงบ และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งความร่มรื่น อีกทั้ง สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่งดงาม ยังคงเป็นที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกได้อย่างไม่ขาดสาย
ประวัติศาสตร์ของประเทศลักเซมเบิร์ก เริ่มต้นจาก เคานท์ซิเอกฟิลด์แห่งลักเซมเบิร์ก เคานท์แห่งอาร์เดนเนส รวมถึงผู้ก่อตั้งราชวงศ์ลักเซมเบิร์ก ได้สร้างปราสาทบริเวณเมืองหลวงของลักเซมเบิร์กในปัจจุบัน ซึ่งในสมัย 1,000 ปีย้อนหลัง นับว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากมีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวย จากภูเขาที่สลับซับซ้อนล้อมรอบเมืองอยู่หลายชั้น ซึ่งรู้จักกันในนามของ ยิบรอลตาทางเหนือ
ราชวงศ์ลักเซมเบิร์ก มีความรุ่งเรืองมากในช่วงปลายยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 15 โดยกษัตริย์หลายพระองค์ในยุโรปล้วนสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ลักเซมเบิร์ก อย่างเช่น จักรพรรดิที่ปกครองประเทศเยอรมันจำนวน 4 พระองค์ กษัตริย์ที่ปกครองประเทศโบฮีเมียจำนวน 4 พระองค์ และกษัตริย์ที่ปกครองประเทศฮังการีอีก 1 พระองค์ ซึ่งกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ได้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 7 แห่งโรมัน, พระเจ้าจอห์นแห่งโบฮีเมีย และดยุคแวนเซลอสที่ 1 แห่งลักเซมเบิร์ก แต่ประเทศลักเซมเบิร์กก็พ่ายแพ้สงครามอยู่หลายต่อหลายครั้ง และได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายประเทศ ทั้ง สเปน ฝรั่งเศส ออสเตรีย และรัสเซีย
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ลักเซมเบิร์กจึงได้รับอิสรภาพอีกครั้ง แต่ก็ยังถูกปกครองด้วยกษัตริย์ของชาติอื่น ซึ่งท้ายสุด ตามสนธิสัญญาลอนดอน ลักเซมเบิร์กถึงได้รับรองสิทธิ์ในการแบ่งดินแดน และการปกครองตนเอง
นี่เป็นแค่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์โดยคร่าวๆ ของประเทศลักเซมเบิร์ก ที่อยากจะนำมาบอกกล่าว เพื่อเป็นการแนะนำตัวของน้องตัวเล็กแห่งยุโรปเท่านั้น เอาเป็นว่า ได้รู้จักกับประเทศนี้กันพอหอมปากหอมคอแล้ว งั้น…มาดูสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจกันบ้างดีกว่า เพื่อเป็นการตีสนิทเข้าไปอีกหน่อย มาเริ่มกันที่นี่กันก่อนเลย
Philharmonie Luxembourg คือ หอแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศ เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตหลักในยุโรป ซึ่งจะจัดแสดงงานใหญ่ๆ ระดับประเทศ โดยศิลปินที่มีชื่อเสียง สถานที่แห่งนี้ ก็เปรียบเหมือนศูนย์วัฒนธรรมที่ทางประเทศลักเซมเบิร์กรับเป็นเจ้าภาพในการ จัดงานนั่นเอง
Philharmonie Luxembourg ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2005 และเปิดให้ประชาชนเข้าชมเป็นครั้งแรกเมื่อ 26 มิถุนายน 2005 โดยงานคอนเสิร์ตครั้งแรกนั้น เต็มไปด้วยศิลปิน และนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้ากว่า 750 คน
สถาปัตยกรรมภายนอกของหอแสดงคอนเสิร์ตนี้ทำจากเหล็กสีขาว ประกอบด้วยเสาจำนวน 823 ต้น เรียงกันสามถึงสี่แถว ส่วนด้านในมีสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องของเทคนิคทั้ง แสง สี เสียง อย่างดีเลิศ โดยมีพื้นที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร สามารถรับรองผู้ชมได้ 1,500 ที่นั่ง
นี่เป็นการเปิดตัวเรื่องราวพอเรียกน้ำย่อย กับประเทศลักเซมเบิร์กเท่านั้น ตอนต่อไปมาดูกันว่า ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ มีเสน่ห์อะไรดีที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างไม่ขาดสายทุกปี
เรื่องโดย Omyim
ขอบคุณที่มา :: travel.mthai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น